สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก
สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ในโลกนี้มีที่เที่ยวใหม่ๆ มากมาย ที่ยังไม่เคยไป แต่ในไม่ช้า มันอาจจะหายไปจากแผนที่ ใครอยากเที่ยวรอบโลก ต้องรีบหน่อย โดยเฉพาะ 12 สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต่อไปนี้อาจหายไปก่อน หมวดหมู่:สถานที่ท่องเที่ยว
1. หมู่เกาะกาลาปากอส (Galapagos Islands) ประเทศเอกวาดอร์
หมู่เกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก อุดมสมบูรณ์มาก และยังมีสัตว์ท้องถิ่นแปลกๆ หาไม่ง่ายในประเทศของเรา สัตว์หลายชนิดมีเฉพาะบนเกาะนี้เท่านั้น ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้มาเยือนกาลาปาโกสไม่ขาดสาย และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ระบบนิเวศของที่นี่เปลี่ยนไป และถูกทำลายลงเรื่อยๆ เกาะแห่งนี้ ยังอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
2. สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives) ประเทศมัลดีฟส์
มัลดีฟส์ เกาะสวรรค์ที่ทุกคนใฝ่ฝัน ใครๆ ทั่วโลกต่างรู้ดีว่ามัลดีฟส์เป็นเกาะเล็กๆ หลายเกาะ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร ทำให้เสี่ยงต่อการจมทะเล ที่คาดว่าจะสูญหายไปในอีกไม่ถึง 100 ปี รัฐบาลได้เตรียมการรับมือ โดยซื้อที่ดินไว้รองรับประชาชนแล้ว ใครยังไม่ได้ไปมัลดีฟต้องรีบแล้ว ไม่งั้นคงหายไปจากแผนที่โลกซะก่อน
3. แนวปะการังเกรท แบริเออร์ รีฟ (Great Barrier Reef) ประเทศออสเตรเลีย
แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นักดำน้ำทั่วโลกใฝ่ฝัน ประกอบด้วยปะการังมากกว่า 400 ชนิด และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งโขดหิน และหาดทรายขาว เรียกได้ว่า เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเลยทีเดียว แต่ด้วยภาวะโลกร้อน อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 6 องศาภายในปี 2513 คาดว่าจะส่งผลกระทบโดยตรง ต่อแนวปะการัง ซึ่งอาจเสียหายได้ และไม่สวยงามเหมือนก่อน ใครชอบไปดำน้ำรอบโลก? ต้องไปที่นี่ และอย่าลืมดูแลธรรมชาติกันด้วย
4. สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก เมืองเวนิส (Venice) ประเทศอิตาลี
เวนิส เมืองแห่งลำคลอง หลายๆ คนคงนึกภาพตัวเองนั่งเรือแจว ข้ามคลองต่างๆ ทั่วเวนิส เพื่อชื่นชมสถาปัตยกรรม อันเก่าแก่และสวยงาม แต่ช่วงหลังๆ มานี้ เวนิสเกิดน้ำท่วมบ่อยมาก ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีน้ำท่วมมากกว่า 60 ครั้ง ใครที่หลงรักมนต์เสน่ห์ของเวนิส และไม่เคยเห็น ด้วยตาของฉันเอง เราต้องรีบก่อนที่ที่นี่จะกลายเป็นเมืองบาดาล
5. ทะเลเดดซี (Dead Sea) ประเทศจอร์แดนและอิสราเอล
Dead Sea ทะเลสาบที่ไม่เคยไหล ใครไปว่ายน้ำที่ Dead Sea บ้าง? แม้จะว่ายน้ำไม่เป็น ก็ยังไม่จมน้ำ เพราะน้ำทะเลมีความเค็มกว่าน้ำทะเลทั่วไปถึง 10 เท่า ใครๆ ก็สามารถลอยบนผิวน้ำได้ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปริมาณน้ำฝนจึงลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้น้ำในทะเลสาบลดลง จนเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ความกว้างของทะเลสาบลดลง 1 ใน 3 และระดับน้ำลดลงจากเดิม 2.40 เมตร
6. กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) ประเทศจีน
ใครๆ ก็รู้ว่ากำแพงเมืองจีน เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหล มาเยี่ยมชมนับไม่ถ้วน กำแพงที่ยาวที่สุดในโลกครอบคลุม 15 มณฑลในประเทศจีน แต่ด้วยอายุกว่า 2,500 ปี อิฐของกำแพง ก็เริ่มจางหายไปตามกาลเวลา และหลายพื้นที่ถูกราษฎร ทำลายเพื่อสร้างพื้นที่ทำการเกษตร บางคนใช้หินซ่อมแซมบ้าน ส่งผลให้กำแพงเมืองจีนถูกทำลายไปกว่า 2 ใน 3 เนื่องจากเป็นกำแพงที่ยาวมาก ทำให้รักษาได้ไม่ทั่วถึง แบบนี้ต้องช่วยกันจับตาดูแล้วล่ะ ก่อนที่จะไม่มีลูกหลานให้ชื่นชมอีกต่อไป
7. สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก มาดากัสการ์ (Madagascar) มหาสมุทรอินเดีย
มาดากัสการ์ เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก เป็นที่ตั้งของพืชพรรณนานาชนิด หลายชนิดหาดูที่อื่นไม่ได้ เพราะอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ป่าที่นี่ก็รุกล้ำไปมาก พื้นที่ป่าที่เคยมีพื้นที่ 120,000 ตารางไมล์ ตอนนี้เหลือพื้นที่เพียง 20,000 ตารางไมล์ นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก แถมค่างซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ของที่นี่ก็สูญพันธุ์ไปถึง 15 ชนิดแล้ว คาดว่าจะเหลือเวลาอีกเพียง 35 ปีเท่านั้นที่จะได้เห็นในการ์ตูนเท่านั้น
8. สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ทิมบักตู (Timbuktu) ประเทศมาลี
ทิมบุกตูเป็นศูนย์กลางของกองคาราวานสินค้า 4 แห่งในโลกอาหรับ ทอดยาวจากสเปนไปยังตะวันออกกลางทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยศิลปะอาหรับ-มุสลิมที่สวยงาม แต่น่าเสียดาย ที่ปัจจุบันมีมุสลิมหัวรุนแรง จำนวนมาก กำลังทำลายโบราณสถานแห่งนี้ และคาดว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เมืองโบราณแห่งนี้ จะไม่ถูกทิ้งร้างในอนาคตอันใกล้นี้
9. ยอดเขาคิลิมันจาโร (Mt. Kilimanjaro) ประเทศแทนซาเนีย และเคนยา
Mount Kilimanjaro roof africa นี่คือยอดเขาที่สูงที่สุดในแอฟริกา และยังเป็นภูเขาไฟ ที่มียอดเดียวที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว และลำตัวเหมือนธารน้ำแข็ง ขนาดใหญ่ด้านบน ซึ่งแตกต่างจากบริเวณด้านล่าง ที่เป็นบรรยากาศเมืองร้อน และเนื่องจากภาวะโลกร้อน ทำให้มีหิมะเหลืออยู่ บนยอดเขาเพียง 20% และอาจละลายในไม่ช้า
10. สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย
ที่นี่ไม่ไปไหน แต่จะปิดและห้ามเข้า ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่มีชื่อเสียง เราจะเหลือเวลาอีกเพียง 5 ปีให้เข้าชม จากนั้นจะปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยว จากทั่วโลกมาเยี่ยมชม จนทำให้ พระราชวังหินอ่อนสีขาวแห่งนี้ ได้รับผลกระทบ จากนี้ไปจะอนุญาตให้ ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอกเท่านั้น ใครยังไม่ได้ไปรีบเลย จะได้รู้จักอนุสรณ์สถานแห่งความรัก อย่างใกล้ชิด
11. มาร์ตินีก (Martinique), ฝรั่งเศส
เกาะแคริบเบียนตะวันออกในหมู่เกาะ Windward เป็นภูมิภาคโพ้นทะเลและจังหวัดของฝรั่งเศส สภาพภูมิอากาศของฝรั่งเศสที่น่าหลงใหลผสมผสานกับความอบอุ่นของอินเดียตะวันตก เสริมด้วยวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่น ทำให้เกาะทั้งเย็นและสว่างด้วยแสงแดด สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่คือการเดินเที่ยวชม La Pagerie บ้านเกิดของจักรพรรดินีโจเซฟิน นโปเลียน และชมเกาะ Diamond Rock กลางทะเล
12. เกาะโอลบอกซ์ (Holbox Island), เม็กซิโก
เกาะของเม็กซิโกที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ หาดทรายขาวสองแห่งล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามของทะเลแคริบเบียน เกาะนี้ตั้งอยู่ใกล้คาบสมุทรยูทัน ซึ่งเป็นจุดชมฉลามวาฬยอดนิยม นักท่องเที่ยวมักมาที่เกาะเพื่อว่ายน้ำกับฉลามวาฬและโลมา พื้นที่บางส่วนของเกาะยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกฟลามิงโก นกกระทุง เต่าทะเล และจระเข้ ถ้าใครรักธรรมชาติและบรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลาย ที่นี่น่าจะตอบโจทย์
